การประชุมใหญ่ ILO ครั้งที่ 100 ลงมติช่วยแรงงานทำงานบ้าน 53 ถึง 100 ล้านคนทั่วโลก ให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานแรงงาน

นครเจนีวา (ข่าว ILO) – เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2554 เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ลูกจ้าง นายจ้างที่เข้าร่วมประชุมใหญ่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization – ILO) ร่วมกันรับมาตรฐานแรงงานประวัติศาสตร์ ที่จะช่วยให้สภาพการจ้างงานของแรงงานในบ้าน จำนวนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกดีขึ้น

Press release | 17 June 2011

นครเจนีวา (ข่าว ILO) – เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2554 เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ลูกจ้าง นายจ้างที่เข้าร่วมประชุมใหญ่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization – ILO) ร่วมกันรับมาตรฐานแรงงานประวัติศาสตร์ ที่จะช่วยให้สภาพการจ้างงานของแรงงานในบ้าน จำนวนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกดีขึ้น

“นับเป็นครั้งแรกที่ระบบมาตรฐานแรงงานของ ILO ได้ครอบคลุมกลุ่มแรงงานในเศรษฐกิจนอกระบบซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” นายฮวน โซมาเวีย ผู้อำนวยการใหญ่ ILO กล่าว “นี่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จขององค์กร”

ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันลงคะแนนรับอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทำงานบ้าน (Convention on Domestic Workers, 2011) ด้วยคะแนน 396 ต่อ 16 โดยงดออกเสียง 63 ประเทศ และข้อเสนอแนะ (Recommendation) ด้วยคะแนน 434 ต่อ 8 งดออกเสียง 42 ประเทศ ILO เป็นองค์กรไตรภาคีขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีสมาชิก 183 ประเทศ ประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐ 2 คน นายจ้าง 1 คน และลูกจ้าง 1 คน ซึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงโดยอิสระ

มาตรฐานทั้ง 2 ฉบับนี้ เป็นอนุสัญญาฉบับที่ 189 และข้อเสนอแนะที่ 201 ซึ่ง ILO ได้รับ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2462 อนุสัญญาเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศซึ่งผูกมัดทางกฎหมายต่อประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบัน ในขณะที่ข้อเสนอแนะให้คำแนะนำในการนำอนุสัญญามาปฏิบัติ

มาตรฐาน ILO ฉบับใหม่นี้จะช่วยให้แรงงานทำงานบ้านทั่วโลกที่ช่วยดูแลครอบครัวและครัวเรือน ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่แรงงานอื่นๆ ได้รับ อาทิ มีชั่วโมงการทำงานอันควร การได้พักผ่อนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน การจำกัดการชดเชยที่ไม่ใช่ตัวเงิน การระบุข้อมูลและเงื่อนไขการจ้างงานที่ชัดเจน และการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน และสิทธิในการทำงาน รวมถึงสิทธิในการสมาคม และสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรอง

ในการประเมินล่าสุดของ ILO ด้วยการสำรวจระดับชาติ หรือการสำรวจสำมะโนประชากรใน 117 ประเทศ ระบุว่ามีแรงงานทำงานบ้านอย่างน้อย 53 ล้านคน ทว่าผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าอาจมีจำนวนถึง 100 ล้านคน เพราะแรงงานประเภทนี้มักซ่อนเร้นและไม่ได้ลงทะเบียน ในประเทศกำลังพัฒนาพวกเขามีสัดส่วนถึงร้อยละ 4-12 ของการจ้างงาน และร้อยละ 83 เป็นหญิงหรือเด็กหญิง และแรงงานข้ามชาติ

อนุสัญญาระบุว่าแรงงานทำงานบ้านคืองานที่ทำในบ้าน ครัวเรือน แม้ว่ามาตรฐานฉบับดังกล่าวจะครอบคลุมแรงงานทำงานบ้านทุกคน แต่จะมีมาตรการพิเศษเพื่อปกป้องแรงงานที่อายุน้อยหรือแรงงานต่างสัญชาติ หรือแรงงานที่พักในบ้าน ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่า

อนุสัญญาฉบับนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายใน 2 ปี ต่อประเทศที่ให้สัตยาบัน

“การนำแรงงานทำงานบ้านเข้าสู่ระบบมาตรฐานนี้ เป็นการพัฒนาที่สำคัญยิ่ง ทั้งในด้านที่พวกเขาจะได้งานที่ดีมีคุณค่า ทั้งยังมีผลต่อการทำงานข้ามชาติ และความเท่าเทียมทางเพศ” นายโซมาเวียกล่าว

นางมิเชล บาเชอเล็ท (Michelle Bachelet) ผู้อำนวยการขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้หญิง (UN Women) กล่าวในการประชุมคณะกรรมการว่า การขาดดุลของงานที่ดีมีคุณค่าของแรงงานทำงานบ้าน “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” และกล่าวเสริมว่า UN Women จะสนับสนุนการดำเนินการในการให้สัตยาบันและการนำมาปฏิบัติของมาตรฐาน ILO ฉบับใหม่นี้

“นับเป็นความสำเร็จที่สำคัญมาก” นางมานูเอลล่า โทเม่ (Manuela Tomei) ผู้อำนวยการโครงการสภาพการทำงานและการจ้างงานของ ILO กล่าว “มาตรฐานนี้ มีความเข้มแข็ง แต่ยืดหยุ่นได้” นางโทเม่กล่าว มาตรฐานใหม่ชี้ให้เห็นชัดว่า “แรงงานทำงานบ้านไม่ใช่คนรับใช้ หรือสมาชิกในครอบครัว แต่เป็นแรงงาน นับแต่นี้ พวกเขาไม่ใช่แรงงานชั้น 2 อีกต่อไป”

การรับมาตรฐานใหม่ฉบับนี้เป็นผลของการตกลงกันเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 โดยคณะกรรมาธิการบริหารของ ILO ที่นำเสนอมาตรฐานนี้ในวาระการประชุม ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 ที่ประชุมเริ่มถกประเด็นกันเป็นครั้งแรก และร่างอนุสัญญาและข้อเสนอแนะ ซึ่งได้รับการรับในวันนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

กฤษฎาพร สิงหเสนี
สารนิเทศ
สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค
โทร. 02 288 1664
อีเมล์